DINING | FOODเดินทางผ่านความทรงจำของเชฟ Alessandro Frau กับเซ็ตเมนู Memories and After ที่ AcquaBy Manta Klangboonkrong
Jan 10, 2025
ความน่าสนใจหนึ่งของอาหารอิตาเลียนคือเป็นอาหารที่มีทั้งรสชาติและสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และในอีกแง่มุมหนึ่งก็เป็นอาหารสัญชาติยุโรปที่นำมาพลิกแพลงเพิ่มลูกเล่นแบบเอเชียได้อย่างลงตัว
หนึ่งในร้านอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยทำให้นักชิมผิดหวังคือ Acqua โดยเชฟและเจ้าของร้าน Alessandro Frau ที่นำเสนออาหารอิตาเลียนแบบร่วมสมัยที่ออกแบบอย่างประณีต และผสมผสานเทคนิคการทำครัวชั้นเลิศเข้ากับวัตถุดิบทั้งเอเชียและยุโรปได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ ที่ห้ามพลาดคือเมนูดีกูสเตชัน Memories and After ที่เชฟ Alessandro สร้างสรรค์ขึ้นจากการเดินทางจากบ้านเกิดในอิตาลีมายังเอเชีย
เมื่อมาถึงร้านที่อยู่ในซอยสมคิด ต้องเดินผ่านสวนสีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ใบดกครึ้ม เข้าไปในบ้านที่เหมือนยกเอาทะเลมาไว้บนบก กับการตกแต่งแบบน้อยแต่มากที่สื่อถึงคลื่นและโลกใต้ทะเลผ่านผิวสัมผัส สีสัน และการใช้แสงที่ผสานกันอย่างลงตัว สมกับชื่อร้าน Acqua ที่แปลว่าน้ำในภาษาอิตาเลียน ให้บรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย และหรูหราในเวลาเดียวกัน ซึ่งแนวทางการตกแต่งทั้งหมดมาจากเชฟ Alessandro
เริ่มต้นการเดินความทรงจำทางจากบ้านเกิดในภาคใต้ของอิตาลีมายังเอเชียกับจานแรก Sicily Meets Japan ที่เชฟ Alessandro นำอาหารทะเลขึ้นชื่อจากทั้งสองภูมิภาค คือกุ้งแดงจากซิซีลีเสิร์ฟแบบสดและไข่หอยเม่นที่นำมาทำเป็นซอสมารวมกันในจานเดียว เป็นเมนูแบบตะวันตกผสมตะวันออกที่มีกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนชัดเจน
ต่อมาคือ Squid Tagliatelle จาน “พาสต้า” ที่ทำจากหมึกเคี้ยวหนึบแต่ไม่เหนียว นำไปหมักกับมิ้นต์ตัดเป็นเส้นๆ คลุกกับน้ำมันมะกอกและโรยหน้าด้วยคาเวียร์จากไซบีเรีย เป็นเมนูอาหารทะเลรสชาติเบาๆ สดใส เปิดสัมผัสการรับรู้รสชาติได้ดี
Sardinian Smoked Eel ก็เป็นอีกจานหนึ่งที่เชฟ Alessandro นำอาหารทะเลที่นิยมในเอเชียมาเสิร์ฟแบบตะวันตกได้อย่างลงตัวไม่เคอะเขิน โดยเป็นการนำปลาไหลไปรมควันจนหอม เนื้อนุ่มฉ่ำ รสเค็มปะแล่ม เสิร์ฟกับซอสเนื้อบางเบาที่ทำจากน้ำส้มบัลซามิกขาวรสเปรี้ยวอมหวาน และผักดองต่างๆ ที่นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จัดเรียงอย่างสวยงามในชาม
จานต่อมา The Countryside on Rainy Days ได้แรงบันดาลใจจากการออกเดินท่องเก็บของป่ามาเป็นวัตถุดิบทำอาหารกับครอบครัวที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บเห็ดป่าที่ขึ้นตามธรรมชาติ จึงได้ออกมาเป็นเมนูรีซอตโตรสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมส่วนผสมที่ให้ความรู้สึกดิบๆ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติอย่างเห็ดป่าประจำฤดูกาล ฟัวกราส์ และหอยทาก
ต่อมาคือเมนูที่รสชาติเข้มข้นขึ้นมาอีกอย่าง Burrata Stuffed Tortelli สอดไส้ด้วยชีสบูราต้าชุ่มครีมและเนื้อส่วนแก้มวัววากิวที่นำไปตุ๋นแบบรากูนาน 72 ชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมทรัฟเฟิลฝานเป็นแว่น ตักเข้าปากทั้งคำจะได้รสชาติหลากหลายที่ผสมกันอย่างลงตัว ในจานยังมีซอสทำจากชีสพาร์มิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano) เนื้อบางเบาจนแทบเป็นโฟม เหยาะบัลซามิกที่เอจนาน 25 ปีที่ให้รสเปรี้ยวแบบผลไม้อมฝาดออกขม ตัดกับความครีมของชีสและความหนักของเนื้อตุ๋นได้ดี
มาถึงเมนูหลักอย่าง Mediterranean Red Mullet ปลากระบอกแดงเนื้อนุ่มที่ไปคลุกเกล็ดขนมปังแล้วนำไปนาบกระทะ เสิร์ฟกับซอสที่ทำจากมอซซาเรลลานมควาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมมะเขือเทศดาตเตรีโน (Datterino tomato) ลูกเล็กกลมที่หวานฉ่ำกว่าแบบอื่นๆ และมะกอกทาจีอาสก้า (Taggiasca olive) รสเค็มมันที่หมักในน้ำเกลือธรรมชาติถึงห้าปี รายละเอียดที่พิเศษของเมนูนี้ยังอยู่ที่การโรยด้วยออเรกาโนแห้งจากเกาะปันเตลเลเรีย (Pantelleria island) ในอิตาลีที่มีใบเล็กและกลิ่นหอมฟุ้ง ซึ่งเมื่ออาหารมาถึงโต๊ะ พนักงานจะนำช่อออเรกาโนแห้งมาริดใบโรยให้สดๆ ก่อนจะลงมือรับประทาน
ปิดท้ายการเดินทางด้วยความทรงจำแห่งความสุขในวัยเด็กกับ Memories of “Fior di Latte” เมนูที่ เชฟ Alessandro ได้แรงบันดาลใจจากการได้กินไอศกรีมนมเข้มข้นเวลาไปเดินตลาดกับครอบครัว เมนูของหวานสีขาวนวลตานี้คือ ไอศกรีมนมแบบซอฟท์เสิร์ฟที่มาพร้อมกับวุ้น โฟม และเมอแรงก์ที่ขับเน้นความนุ่มเนียนและกลิ่นหอมของนม
Jan 10, 2025
ความน่าสนใจหนึ่งของอาหารอิตาเลียนคือเป็นอาหารที่มีทั้งรสชาติและสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร และในอีกแง่มุมหนึ่งก็เป็นอาหารสัญชาติยุโรปที่นำมาพลิกแพลงเพิ่มลูกเล่นแบบเอเชียได้อย่างลงตัว
หนึ่งในร้านอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งในกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยทำให้นักชิมผิดหวังคือ Acqua โดยเชฟและเจ้าของร้าน Alessandro Frau ที่นำเสนออาหารอิตาเลียนแบบร่วมสมัยที่ออกแบบอย่างประณีต และผสมผสานเทคนิคการทำครัวชั้นเลิศเข้ากับวัตถุดิบทั้งเอเชียและยุโรปได้อย่างลงตัวและน่าสนใจ ที่ห้ามพลาดคือเมนูดีกูสเตชัน Memories and After ที่เชฟ Alessandro สร้างสรรค์ขึ้นจากการเดินทางจากบ้านเกิดในอิตาลีมายังเอเชีย
เมื่อมาถึงร้านที่อยู่ในซอยสมคิด ต้องเดินผ่านสวนสีเขียวที่มีต้นไม้ใหญ่ใบดกครึ้ม เข้าไปในบ้านที่เหมือนยกเอาทะเลมาไว้บนบก กับการตกแต่งแบบน้อยแต่มากที่สื่อถึงคลื่นและโลกใต้ทะเลผ่านผิวสัมผัส สีสัน และการใช้แสงที่ผสานกันอย่างลงตัว สมกับชื่อร้าน Acqua ที่แปลว่าน้ำในภาษาอิตาเลียน ให้บรรยากาศอบอุ่น ผ่อนคลาย และหรูหราในเวลาเดียวกัน ซึ่งแนวทางการตกแต่งทั้งหมดมาจากเชฟ Alessandro
เริ่มต้นการเดินความทรงจำทางจากบ้านเกิดในภาคใต้ของอิตาลีมายังเอเชียกับจานแรก Sicily Meets Japan ที่เชฟ Alessandro นำอาหารทะเลขึ้นชื่อจากทั้งสองภูมิภาค คือกุ้งแดงจากซิซีลีเสิร์ฟแบบสดและไข่หอยเม่นที่นำมาทำเป็นซอสมารวมกันในจานเดียว เป็นเมนูแบบตะวันตกผสมตะวันออกที่มีกลิ่นอายความเป็นอิตาเลียนชัดเจน
ต่อมาคือ Squid Tagliatelle จาน “พาสต้า” ที่ทำจากหมึกเคี้ยวหนึบแต่ไม่เหนียว นำไปหมักกับมิ้นต์ตัดเป็นเส้นๆ คลุกกับน้ำมันมะกอกและโรยหน้าด้วยคาเวียร์จากไซบีเรีย เป็นเมนูอาหารทะเลรสชาติเบาๆ สดใส เปิดสัมผัสการรับรู้รสชาติได้ดี
Sardinian Smoked Eel ก็เป็นอีกจานหนึ่งที่เชฟ Alessandro นำอาหารทะเลที่นิยมในเอเชียมาเสิร์ฟแบบตะวันตกได้อย่างลงตัวไม่เคอะเขิน โดยเป็นการนำปลาไหลไปรมควันจนหอม เนื้อนุ่มฉ่ำ รสเค็มปะแล่ม เสิร์ฟกับซอสเนื้อบางเบาที่ทำจากน้ำส้มบัลซามิกขาวรสเปรี้ยวอมหวาน และผักดองต่างๆ ที่นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ จัดเรียงอย่างสวยงามในชาม
จานต่อมา The Countryside on Rainy Days ได้แรงบันดาลใจจากการออกเดินท่องเก็บของป่ามาเป็นวัตถุดิบทำอาหารกับครอบครัวที่ส่วนใหญ่จะเป็นการเก็บเห็ดป่าที่ขึ้นตามธรรมชาติ จึงได้ออกมาเป็นเมนูรีซอตโตรสเข้มข้น เสิร์ฟพร้อมส่วนผสมที่ให้ความรู้สึกดิบๆ และความอุดมสมบูรณ์ของป่าและธรรมชาติอย่างเห็ดป่าประจำฤดูกาล ฟัวกราส์ และหอยทาก
ต่อมาคือเมนูที่รสชาติเข้มข้นขึ้นมาอีกอย่าง Burrata Stuffed Tortelli สอดไส้ด้วยชีสบูราต้าชุ่มครีมและเนื้อส่วนแก้มวัววากิวที่นำไปตุ๋นแบบรากูนาน 72 ชั่วโมง เสิร์ฟพร้อมทรัฟเฟิลฝานเป็นแว่น ตักเข้าปากทั้งคำจะได้รสชาติหลากหลายที่ผสมกันอย่างลงตัว ในจานยังมีซอสทำจากชีสพาร์มิจาโน เรจจาโน (Parmigiano Reggiano) เนื้อบางเบาจนแทบเป็นโฟม เหยาะบัลซามิกที่เอจนาน 25 ปีที่ให้รสเปรี้ยวแบบผลไม้อมฝาดออกขม ตัดกับความครีมของชีสและความหนักของเนื้อตุ๋นได้ดี
มาถึงเมนูหลักอย่าง Mediterranean Red Mullet ปลากระบอกแดงเนื้อนุ่มที่ไปคลุกเกล็ดขนมปังแล้วนำไปนาบกระทะ เสิร์ฟกับซอสที่ทำจากมอซซาเรลลานมควาย นอกจากนี้ยังมาพร้อมมะเขือเทศดาตเตรีโน (Datterino tomato) ลูกเล็กกลมที่หวานฉ่ำกว่าแบบอื่นๆ และมะกอกทาจีอาสก้า (Taggiasca olive) รสเค็มมันที่หมักในน้ำเกลือธรรมชาติถึงห้าปี รายละเอียดที่พิเศษของเมนูนี้ยังอยู่ที่การโรยด้วยออเรกาโนแห้งจากเกาะปันเตลเลเรีย (Pantelleria island) ในอิตาลีที่มีใบเล็กและกลิ่นหอมฟุ้ง ซึ่งเมื่ออาหารมาถึงโต๊ะ พนักงานจะนำช่อออเรกาโนแห้งมาริดใบโรยให้สดๆ ก่อนจะลงมือรับประทาน
ปิดท้ายการเดินทางด้วยความทรงจำแห่งความสุขในวัยเด็กกับ Memories of “Fior di Latte” เมนูที่ เชฟ Alessandro ได้แรงบันดาลใจจากการได้กินไอศกรีมนมเข้มข้นเวลาไปเดินตลาดกับครอบครัว เมนูของหวานสีขาวนวลตานี้คือ ไอศกรีมนมแบบซอฟท์เสิร์ฟที่มาพร้อมกับวุ้น โฟม และเมอแรงก์ที่ขับเน้นความนุ่มเนียนและกลิ่นหอมของนม
A breath of fresh air at Acqua Bangkok
Chef Alessandro Frau’s refined Italian now serves the capital
If you’ve ever dined at Acqua Restaurant in Kalim Bay, Phuket, you’re aware of what a gem the place is. Though getting on a plane when you’re craving some of its goodness is no longer a thing. Chef-patron Alessandro Frau has gone the extra step (almost two years, give or take) and opened Acqua Restaurant Bangkok on Soi Somkid.
“I decided to open in Bangkok because after 13 years in Phuket and post-Covid, the island became too seasonal and too small for what I want to do. We had to limit ourselves all the time. We wanted to bein the centre of the stage, which is Bangkok,” says chef Frau. And being in the centre is just what Acqua Bangkok is all about. The 60-seat restaurant is more upscale and refined in its design, exteriors and interiors, compared to the Phuket flagship. The concept, according to chef Frau, is fine dining with an informal Italian approach (read: no tasting menus, as yet). It is breathtaking as soon as you enter the grounds and the large French windows with garden views from the inside gives you a hint of what the menu is like: exquisite, refined and luxurious.
The menu is extensive, offering a mix of Acqua’s well-known favourites and seasonal delights. Begin with an amuse bouche of shrimp with smoked mozzarella and tomato powder, Maritozzi or sweet bread in in Italian, is usually eaten with Nutella or dried figs or fruit, but here it is served with mortadella foam and crushed pistachios from Bronte, a classic Italian combo. The third amuse bouche is a filo pastry shell topped with stracciatella and smoked caviar.
I love bread and do try to avoid the bread baskets at restaurants, but here you’d want to try the pane carasau or the crispy bread from Sardinia, which is very addictive. Other choices include ciabatta, focaccia and pane cafone from the south of Italy, often referred to as the “king of bread”. But enough of the bread, let’s dive straight into the seasonal starters. Oysters are one of my favourite things to slurp and if they are on a menu, they are in my mouth. The Ceviche of fresh scallops and Gillardeau oysters with soy sauce-marinated fish eggs (B1,500) is a thing of beauty and just not in looks. Though I could say the same about the Raw Sicilian red prawns or Rosso di Mazara with smoked mozzarella cream, Sardinian sea urchin and Siberian caviar (B1,250). Equally satiating and how could it not be — the red Sicilian prawn has a reputation of being one of the best in the world!
“I decided to open in Bangkok because after 13 years in Phuket and post-Covid, the island became too seasonal and too small for what I want to do. We had to limit ourselves all the time. We wanted to bein the centre of the stage, which is Bangkok,” says chef Frau. And being in the centre is just what Acqua Bangkok is all about. The 60-seat restaurant is more upscale and refined in its design, exteriors and interiors, compared to the Phuket flagship. The concept, according to chef Frau, is fine dining with an informal Italian approach (read: no tasting menus, as yet). It is breathtaking as soon as you enter the grounds and the large French windows with garden views from the inside gives you a hint of what the menu is like: exquisite, refined and luxurious.
The menu is extensive, offering a mix of Acqua’s well-known favourites and seasonal delights. Begin with an amuse bouche of shrimp with smoked mozzarella and tomato powder, Maritozzi or sweet bread in in Italian, is usually eaten with Nutella or dried figs or fruit, but here it is served with mortadella foam and crushed pistachios from Bronte, a classic Italian combo. The third amuse bouche is a filo pastry shell topped with stracciatella and smoked caviar.
I love bread and do try to avoid the bread baskets at restaurants, but here you’d want to try the pane carasau or the crispy bread from Sardinia, which is very addictive. Other choices include ciabatta, focaccia and pane cafone from the south of Italy, often referred to as the “king of bread”. But enough of the bread, let’s dive straight into the seasonal starters. Oysters are one of my favourite things to slurp and if they are on a menu, they are in my mouth. The Ceviche of fresh scallops and Gillardeau oysters with soy sauce-marinated fish eggs (B1,500) is a thing of beauty and just not in looks. Though I could say the same about the Raw Sicilian red prawns or Rosso di Mazara with smoked mozzarella cream, Sardinian sea urchin and Siberian caviar (B1,250). Equally satiating and how could it not be — the red Sicilian prawn has a reputation of being one of the best in the world!
It isn’t my first time eating squid disguised as pasta but the Squid tagliatelle marinated with mint and extra virgin olive oil with Siberian caviar and cucamelon (B950) will make you forget about the other times you’ve eaten similar dishes. The squid is very thinly sliced to resemble tagliatelle and is marinated with olive oil and lemon. The temperature of the squid is important in this dish, which comes from the east coast of Italy. Refreshing and light, this is a dish perfect for the Bangkok weather.
The next dish is inspired by nervetti or the northern Italian salad of meat, cartilage and tendons, sliced thin, served chilled with vegetables. “Since nervetti isn’t really refined enough for Acqua, I have used smoked eel,” says the chef. Sardinian smoked eel, served with pickled vegetable, sweet and sour, in a white balsamico vinegar sauce and grilled crispy country bread topped with smoked mozzarella and Avruga caviar (B750) is now one of my favourite things to eat. It is exquisite to look at and even better to savour! What may be considered a simple dish, yet extravagant is the Spaghetti vongole and Sardinian sea urchin (B850). The sauce is made with sea urchins from Sardinia, while the fresh uni atop comes from Japan. I absolutely love uni and this dish made me so happy, carbs and all!
A fish I have acquired new-found love for is red mullet and at Acqua. Mediterranean red mullet is coated with a light aromatised breadcrumb crust and pan-fried (B1,450). It is served with a buffalo mozzarella sauce, Taggiasche olives, Italian tomato datterino, Sicilian capers and a generous shake, table-side and from a bouquet, of Pantelleria island oregano. The breadcrumbs give the fish extra crispness, while the olive oil from Liguira adds that extra tang, along with the cherry tomatoes. Yum, yum and then some!
The next dish is inspired by nervetti or the northern Italian salad of meat, cartilage and tendons, sliced thin, served chilled with vegetables. “Since nervetti isn’t really refined enough for Acqua, I have used smoked eel,” says the chef. Sardinian smoked eel, served with pickled vegetable, sweet and sour, in a white balsamico vinegar sauce and grilled crispy country bread topped with smoked mozzarella and Avruga caviar (B750) is now one of my favourite things to eat. It is exquisite to look at and even better to savour! What may be considered a simple dish, yet extravagant is the Spaghetti vongole and Sardinian sea urchin (B850). The sauce is made with sea urchins from Sardinia, while the fresh uni atop comes from Japan. I absolutely love uni and this dish made me so happy, carbs and all!
A fish I have acquired new-found love for is red mullet and at Acqua. Mediterranean red mullet is coated with a light aromatised breadcrumb crust and pan-fried (B1,450). It is served with a buffalo mozzarella sauce, Taggiasche olives, Italian tomato datterino, Sicilian capers and a generous shake, table-side and from a bouquet, of Pantelleria island oregano. The breadcrumbs give the fish extra crispness, while the olive oil from Liguira adds that extra tang, along with the cherry tomatoes. Yum, yum and then some!
Time for dessert and I am thanking the stars there apparently is a separate stomach for it. I just about have space for the Memories of “Fior di Latte” or milk semifreddo, foam, sauce and ice cream (B480). Fior di Latte is the famous soft serve ice cream in Italy. “This particular dessert has such good childhood memories for me. My mother used to take me to get this ice cream and the shop wasn’t close to where we lived. We had to drive to the coffee shop outside the city centre, which had this machine. The flavour of this ice cream is so embedded in my brain that I have recreated it to the T,” says chef Frau, excitedly. The ice cream has a bit of lemon zest for balance, and “if you had the same experience as I did as a child, when you eat this dessert, close your eyes and relive the memories,” he adds.
Insider’s tip: The restaurant has a private room and a large wine room, where dinners can be held. In the spacious grounds, chef Frau is also opening an Italian bakery and coffee shop. So stay tuned for more deliciousness! Call 093-612-7000, email [email protected] or visit acquarestaurantbangkok.com.
Insider’s tip: The restaurant has a private room and a large wine room, where dinners can be held. In the spacious grounds, chef Frau is also opening an Italian bakery and coffee shop. So stay tuned for more deliciousness! Call 093-612-7000, email [email protected] or visit acquarestaurantbangkok.com.
New Bangkok restaurants to check out this July
AcquaGreat news for Bangkokians: you no longer need to book a flight to Phuket to sample Chef Alessandro Frau’s dishes. The infamous Acqua Restaurant from Phuket has found a home in Bangkok, in a location you may already be familiar with. Located next to Siri House on Soi Somkid, the grand space that previously housed Jaew Jim Thompson now welcomes diners as Acqua Restaurant Bangkok. Whilst we’re yet to visit ourselves, we’ve seen and heard only good things, and suspect a menu similar to that of Acqua Phuket. Here, Chef Alessandro Frau serves up experimental nuova cucina (or new cuisine), bringing to the table a creative take on contemporary Italian dishes. Known to welcome guests to a dining experience that scores high on flavour, ambience, and Sardinian charm, if Acqua Restaurant Bangkok is going to be anything like its Phuket counterpart, we’re ready to make it one of our regulars for a night of fine wines and good times in the city.
EATERY
ดื่มด่ำรสชาติอาหารอิตาเลียนแท้สไตล์โมเดิร์นในไวบ์สุดชิลที่
Acqua Restaurant Bangkok
จากภูเก็ตสู่กรุงเทพฯ กับตำรับความอร่อยสไตล์อิตาเลียนโดยเชฟ Alessandro Frau
จากความเลื่องชื่อในเกาะซาร์ดิเนีย ประเทศอิตาลี สู่ภูเก็ต…วันนี้ Acqua Ristorante ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นอิตาเลียนที่ถูกปลุกปั้นขึ้นโดยเชฟ Alessandro Frau ได้ยกมาปักหลักใจกลางกรุงเทพฯ ท่ามกลางบรรยากาศสุดชิลที่ตอบโจทย์การนัดพบปะกับก๊วนเพื่อนและคนรู้ใจ
13 ปีแห่งการเปิดตัว Acqua ในภูเก็ตได้สร้างความประทับใจแก่เหล่านักชิมทั้งไทยและต่างประเทศมานับไม่ถ้วน การันตีด้วยรางวัลมากมาย อาทิ Best Italian Restaurant in Phuket and Thailand โดย Ospitalita’ Italiana, Restaurant of the Year โดย HAPA (Hospitality Asia Platinum Awards) 2016 – 2018, Michelin Guide Thailand ใน 2019-2020 และในส่วนของเชฟ Alessandro เองก็ยังคว้าตำแหน่งผู้ชนะจาก Iron Chef Thailand ในปี 2013
Acqua Restaurant Bangkok ตั้งอยู่ในซอยสมคิดท่ามกลางพื้นที่ที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีแสนร่มรื่น ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาวทองเรียบหรูที่ดูทันสมัยแต่ยังให้บรรยากาศผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงท่ามกลางแสงไฟสลัวที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นตรงตามความตั้งใจของเชฟที่อยากให้แขกได้ดื่มด่ำกับ Fine Dining ในไวบ์สบายๆ
“ผมฝันมาโดยตลอดว่าอยากจะได้พื้นที่ในซอยสมคิด แล้ววันนี้มันก็เป็นจริง เราเปิดบริการได้สามเดือนแล้ว ผมดีใจมากครับที่ได้เปิดสาขาใหม่ที่นี่” เชฟ Alessandro กล่าวพร้อมสีหน้าและแววตาที่เปี่ยมด้วยความสุข “ตอนนี้เราเปิดบริการเพียงช่วงเย็น และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะเปิดบริการสำหรับมื้อกลางวันด้วยครับ”
แน่นอนว่าวัตถุดิบคือหัวใจหลักของ Acqua ที่ทำให้เมนูทุกจานถูกรังสรรค์ออกมาอย่างวิเศษด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากอิตาลีผสมผสานกับวัตถุดิบอันเลื่องชื่อจากฝรั่งเศส สเปน และญี่ปุ่นเพื่อความอร่อยที่หลากหลายพร้อมเสิร์ฟในรูปแบบ A La Carte Menu, Seasonal Specials และ Degustation Menu ที่มัดรวมจานไฮไลต์ของทางร้านมาไว้ในคอร์สซึ่งจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า
หนึ่งในจานอร่อยที่เราต้องขอยกนิ้วให้คือ เซวิเช่หอยเชลล์และหอยนางรมจีราโด (Gillardeau) เสิร์ฟกับไข่ปลาคลุกเคล้าซอสถั่วเหลืองยูซุและน้ำมันมะกอก มอบรสชาติที่สดชื่นยิ่งขึ้นเมื่อแพร์ริ่งกับ Nals Margreid Kalk Chardonnay ไวน์ขาวที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดี รวมไปถึงความอร่อยแปลกใหม่ที่ดูผิวเผินแล้วก็คงคิดว่าเป็นพาสต้าแต่ความจริงแล้วเป็นปลาหมึกที่ถูกตัดในรูปแบบเส้น หมักด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ท็อปด้วยคาเวียร์และหน่อไม้ฝรั่งสด ซึ่งใครที่ไม่ชอบความคาวของปลาหมึกบอกได้เลยว่าจานนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดไปเลย อีกเมนูที่ไม่เพียงอร่อยแต่ยังมีหน้าตาสวยงามดุจงานศิลปะหลากสีจนใครเห็นเป็นต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายก็คือ ปลาไหลซาร์ดิเนียร์รมควันเสิร์ฟพร้อมซอสน้ำส้มสายชูบัลซามิกสีขาวที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานและผักดอง
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยขนมหวานที่สาวๆ อย่างเรามีพื้นที่ในกระเพาะให้เสมอ เริ่มจาก Memories of Flor di Latte ที่ทำจากนมเซมิเฟรดโด เจลาติน โฟม เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสนม ซึ่งทางเชฟ Alessandro เผยว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำวัยเด็กที่ได้ทานไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟนั่นเอง และเซ็ตขนมหวานที่ใครเห็นเป็นต้องหวีดกับ Petit Four ชิ้นเล็กพอดีคำที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมาร์ชแมลโลว์ในกล่องดนตรีและกล่องพิมพ์ลายสไตล์ Sicily ที่เหล่าสายแฟคงคุ้นกันดีกับแพทเทิร์นของ Dolce & Gabbana
Editor’s Thoughts
“เป็นประสบการณ์มื้ออาหารค่ำที่วิเศษทั้งในด้านรสชาติ การนำเสนอเรื่องราว การจับคู่กับเครื่องดื่มที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ และบรรยากาศโดยรอบที่ชิลมากจนมองดูนาฬิกาอีกทีก็จวนปิดร้านแล้ว สายไฟน์ไดนิ่งและอาหารอิตาเลียนไม่ผิดหวังแน่นอน”
13 ปีแห่งการเปิดตัว Acqua ในภูเก็ตได้สร้างความประทับใจแก่เหล่านักชิมทั้งไทยและต่างประเทศมานับไม่ถ้วน การันตีด้วยรางวัลมากมาย อาทิ Best Italian Restaurant in Phuket and Thailand โดย Ospitalita’ Italiana, Restaurant of the Year โดย HAPA (Hospitality Asia Platinum Awards) 2016 – 2018, Michelin Guide Thailand ใน 2019-2020 และในส่วนของเชฟ Alessandro เองก็ยังคว้าตำแหน่งผู้ชนะจาก Iron Chef Thailand ในปี 2013
Acqua Restaurant Bangkok ตั้งอยู่ในซอยสมคิดท่ามกลางพื้นที่ที่ห้อมล้อมด้วยต้นไม้เขียวขจีแสนร่มรื่น ภายในตกแต่งด้วยโทนสีขาวทองเรียบหรูที่ดูทันสมัยแต่ยังให้บรรยากาศผ่อนคลาย เคลิบเคลิ้มไปกับเสียงเพลงท่ามกลางแสงไฟสลัวที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นตรงตามความตั้งใจของเชฟที่อยากให้แขกได้ดื่มด่ำกับ Fine Dining ในไวบ์สบายๆ
“ผมฝันมาโดยตลอดว่าอยากจะได้พื้นที่ในซอยสมคิด แล้ววันนี้มันก็เป็นจริง เราเปิดบริการได้สามเดือนแล้ว ผมดีใจมากครับที่ได้เปิดสาขาใหม่ที่นี่” เชฟ Alessandro กล่าวพร้อมสีหน้าและแววตาที่เปี่ยมด้วยความสุข “ตอนนี้เราเปิดบริการเพียงช่วงเย็น และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าเราจะเปิดบริการสำหรับมื้อกลางวันด้วยครับ”
แน่นอนว่าวัตถุดิบคือหัวใจหลักของ Acqua ที่ทำให้เมนูทุกจานถูกรังสรรค์ออกมาอย่างวิเศษด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถันจากอิตาลีผสมผสานกับวัตถุดิบอันเลื่องชื่อจากฝรั่งเศส สเปน และญี่ปุ่นเพื่อความอร่อยที่หลากหลายพร้อมเสิร์ฟในรูปแบบ A La Carte Menu, Seasonal Specials และ Degustation Menu ที่มัดรวมจานไฮไลต์ของทางร้านมาไว้ในคอร์สซึ่งจะเปิดตัวในอีกไม่ช้า
หนึ่งในจานอร่อยที่เราต้องขอยกนิ้วให้คือ เซวิเช่หอยเชลล์และหอยนางรมจีราโด (Gillardeau) เสิร์ฟกับไข่ปลาคลุกเคล้าซอสถั่วเหลืองยูซุและน้ำมันมะกอก มอบรสชาติที่สดชื่นยิ่งขึ้นเมื่อแพร์ริ่งกับ Nals Margreid Kalk Chardonnay ไวน์ขาวที่ทางร้านคัดสรรมาอย่างดี รวมไปถึงความอร่อยแปลกใหม่ที่ดูผิวเผินแล้วก็คงคิดว่าเป็นพาสต้าแต่ความจริงแล้วเป็นปลาหมึกที่ถูกตัดในรูปแบบเส้น หมักด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ท็อปด้วยคาเวียร์และหน่อไม้ฝรั่งสด ซึ่งใครที่ไม่ชอบความคาวของปลาหมึกบอกได้เลยว่าจานนี้จะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดไปเลย อีกเมนูที่ไม่เพียงอร่อยแต่ยังมีหน้าตาสวยงามดุจงานศิลปะหลากสีจนใครเห็นเป็นต้องยกกล้องขึ้นมาถ่ายก็คือ ปลาไหลซาร์ดิเนียร์รมควันเสิร์ฟพร้อมซอสน้ำส้มสายชูบัลซามิกสีขาวที่ให้รสชาติเปรี้ยวหวานและผักดอง
ปิดท้ายค่ำคืนด้วยขนมหวานที่สาวๆ อย่างเรามีพื้นที่ในกระเพาะให้เสมอ เริ่มจาก Memories of Flor di Latte ที่ทำจากนมเซมิเฟรดโด เจลาติน โฟม เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมรสนม ซึ่งทางเชฟ Alessandro เผยว่าเขาได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำวัยเด็กที่ได้ทานไอศกรีมซอฟต์เสิร์ฟนั่นเอง และเซ็ตขนมหวานที่ใครเห็นเป็นต้องหวีดกับ Petit Four ชิ้นเล็กพอดีคำที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมาร์ชแมลโลว์ในกล่องดนตรีและกล่องพิมพ์ลายสไตล์ Sicily ที่เหล่าสายแฟคงคุ้นกันดีกับแพทเทิร์นของ Dolce & Gabbana
Editor’s Thoughts
“เป็นประสบการณ์มื้ออาหารค่ำที่วิเศษทั้งในด้านรสชาติ การนำเสนอเรื่องราว การจับคู่กับเครื่องดื่มที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ และบรรยากาศโดยรอบที่ชิลมากจนมองดูนาฬิกาอีกทีก็จวนปิดร้านแล้ว สายไฟน์ไดนิ่งและอาหารอิตาเลียนไม่ผิดหวังแน่นอน”
ลิ้มรส Fine Dine แบบทะเลอิตาเลียนกับ ACQUA Restaurant Bangkok ร้านอาหารชื่อดังจากภูเก็ตเป็นเวลากว่า 13 ที่ร้านอาหารโมเดิร์นอิตาเลียนนี้ ได้สร้างชื่อเสียงภายในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งในวันนี้ ทะเลภูเก็ตได้พัดประสบการณ์อาหารชั้นเลิศ มาไว้ใจกลางกรุงเทพฯ แล้ว กับ ACQUA Restaurant Bangkok อาหารอิตาเลียนซีฟู้ดรสเลิศ
นอกจากอาหารอิตาเลียนปกติที่เรารู้จักกัน หลายคนคงจะทราบว่าอิตาลีนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล ทำให้นอกจากพาสต้า พิซซ่า และ เมนูแป้งต่างๆ เมนูซีฟู้ดนั้นก็เลิศรสไม่แพ้กัน ไอเดียนี้จึงเป็นที่มาของร้าน ACQUA Restaurant ร้านอาหารชื่อดังระดับแถวหน้าจากภูเก็ตที่สร้างชื่อเสียงมานานกว่า 13 ปี ด้วยคอนเซ็ปต์ โมเดิร์น อิตาเลียน และถูกรังสรรค์เมนู Fine Dine เลิศรส โดย Alessandro Frau เชฟชาวซาร์ดิเนีย (Kingdom of Sardinia) ที่เป็นทั้งเจ้าของและเชฟ และได้ตัดสินใจยกร้านชื่อดังจาก ภูเก็ต นี้ มาตั้งไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ชาวกรุงได้ลิ้มลองรสชาติของทะเลอิตาเลียนกัน กับ ACQUA Restaurant Bangkok
นอกจากอาหารอิตาเลียนปกติที่เรารู้จักกัน หลายคนคงจะทราบว่าอิตาลีนั้นถูกล้อมรอบไปด้วยทะเล ทำให้นอกจากพาสต้า พิซซ่า และ เมนูแป้งต่างๆ เมนูซีฟู้ดนั้นก็เลิศรสไม่แพ้กัน ไอเดียนี้จึงเป็นที่มาของร้าน ACQUA Restaurant ร้านอาหารชื่อดังระดับแถวหน้าจากภูเก็ตที่สร้างชื่อเสียงมานานกว่า 13 ปี ด้วยคอนเซ็ปต์ โมเดิร์น อิตาเลียน และถูกรังสรรค์เมนู Fine Dine เลิศรส โดย Alessandro Frau เชฟชาวซาร์ดิเนีย (Kingdom of Sardinia) ที่เป็นทั้งเจ้าของและเชฟ และได้ตัดสินใจยกร้านชื่อดังจาก ภูเก็ต นี้ มาตั้งไว้ใจกลางกรุงเทพฯ ให้ชาวกรุงได้ลิ้มลองรสชาติของทะเลอิตาเลียนกัน กับ ACQUA Restaurant Bangkok
หลังจากดื่มด่ำกับบรรยากาศดีๆ แล้ว เราก็เริ่มเปิดต่อมรับรสด้วย amuse bouche 3 คำ และเพลินกับขนมปังหลากชนิดที่เสิร์ฟมา เป็นการเปิดมื้อที่ดีเลยทีเดียว
เริ่มจานแรกคือ กุ้งแดงสดจากซาร์ดีเนีย ที่เชฟบอกว่าเป็น “กุ้งที่ดีที่สุดในโลก” หมักกับน้ำมะนาว และ น้ำมันมะกอก เสิร์ฟกับ”ไข่ปลาคาร์เวียร์” จากไซบีเรีย ซอสอูนิ และ มอซซาเรลล่า (Mozzarella) ครีม จานนี้สีสันสดสวยงาม และอร่อยมาก มีทั้งความหวานสดของกุ้ง ความเปรี้ยว และความมันของซ้อส ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ตามมาด้วย ปลาไหลรมควัน จากซาร์ดีเนีย เขาดึงความทรงจำในวัยเด็กของเขามาสร้างรสชาติของจานนี้ ความมันของปลาไหล เข้ากับความเปรี้ยว ของพิคเคิล บัลซามิก วีนิการ์ และ ผักที่หั่นชิ้นเล็กๆ ด้วยความประณีตงดงามอยู่ในซ้อสที่มีความเป็นเจลลี่นิดๆ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ อร่อยจนแทบจะเอาขนมปังปาดซ้อสให้หมดจาน
Signature dish คือ ไข่ที่ใช้กรรมวิธีแบบสโลว์ คุ๊ก อย่างช้า ๆ 55 นาที เสิร์ฟกับพาร์มิซาน (Parmesan) ฟองดู โรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลดำ ขูดเป็นแผ่นบางๆ การจัดจานให้ความรู้สึกเหมือนรังนก ส่วนรสชาตินั้นคือ ความมัน ความนวลเนียน กลมกล่อมมาก
ก่อนจะเข้าสู่เมนคอร์ส ตามสไตล์อาหารอิตาเลียน ก็ต้องเป็นจานพาสต้า เชฟทำสปาเก็ตตี้เส้นสด กับ ซอสอูนิ เค็มๆ มันๆ ทำเอาชาว HELLO! เริ่มอิ่มกันถ้วนหน้าแล้ว แต่เราจะพลาดไม่ได้กับเมนคอร์ส ซึ่งคือปลา Red mullet นำมาชุบเกล็ดขนมปังทอด เสิร์ฟกับมอซซาเรลลา บวกกับเนื้อปลาสดหวาน และซอสอันนุ่มนวล เรียกได้ว่าเป็นการปิดมื้อของคาวจาก ACQUA Restaurant Bangkok อย่างจุใจกันเลยทีเดียว
ต่อด้วยของหวานเสิร์ฟมามากมายหลายชนิด หากอิ่มแล้วยังไม่อยากกลับ ไปดริงค์ต่อที่บาร์ได้ มีทั้งค็อกเทล และไวน์กว่า 500 ชนิดจากทั่วโลก
อาหารทุกจาน ให้มากกว่าความอร่อย ด้วยวัตถุดิบชั้นดี ฝีมือการปรุงเหนือชั้น และ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้ความรู้สึกถึง ความเป็นศิลปะขั้นสูง ความประณีต แบบ Fine Dine ภายในบรรยากาศ ที่เรียบง่าย เรียกได้ว่าเป็นอีกมื้อหนึ่งที่ถือว่าเป็นประสบการณ์ชั้นเลิศได้เลย
ร้านตั้งอยู่ที่ 16,16/8 ซอยสมคิด เพลินจิต กรุงเทพฯ โทร. 093 6127000 เปิดตั้งแต่ 18.00-22.30 น.
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ Hello!
เริ่มจานแรกคือ กุ้งแดงสดจากซาร์ดีเนีย ที่เชฟบอกว่าเป็น “กุ้งที่ดีที่สุดในโลก” หมักกับน้ำมะนาว และ น้ำมันมะกอก เสิร์ฟกับ”ไข่ปลาคาร์เวียร์” จากไซบีเรีย ซอสอูนิ และ มอซซาเรลล่า (Mozzarella) ครีม จานนี้สีสันสดสวยงาม และอร่อยมาก มีทั้งความหวานสดของกุ้ง ความเปรี้ยว และความมันของซ้อส ผสมผสานกันอย่างลงตัว
ตามมาด้วย ปลาไหลรมควัน จากซาร์ดีเนีย เขาดึงความทรงจำในวัยเด็กของเขามาสร้างรสชาติของจานนี้ ความมันของปลาไหล เข้ากับความเปรี้ยว ของพิคเคิล บัลซามิก วีนิการ์ และ ผักที่หั่นชิ้นเล็กๆ ด้วยความประณีตงดงามอยู่ในซ้อสที่มีความเป็นเจลลี่นิดๆ ให้ความรู้สึกใกล้ชิดกับธรรมชาติ อร่อยจนแทบจะเอาขนมปังปาดซ้อสให้หมดจาน
Signature dish คือ ไข่ที่ใช้กรรมวิธีแบบสโลว์ คุ๊ก อย่างช้า ๆ 55 นาที เสิร์ฟกับพาร์มิซาน (Parmesan) ฟองดู โรยหน้าด้วยทรัฟเฟิลดำ ขูดเป็นแผ่นบางๆ การจัดจานให้ความรู้สึกเหมือนรังนก ส่วนรสชาตินั้นคือ ความมัน ความนวลเนียน กลมกล่อมมาก
ก่อนจะเข้าสู่เมนคอร์ส ตามสไตล์อาหารอิตาเลียน ก็ต้องเป็นจานพาสต้า เชฟทำสปาเก็ตตี้เส้นสด กับ ซอสอูนิ เค็มๆ มันๆ ทำเอาชาว HELLO! เริ่มอิ่มกันถ้วนหน้าแล้ว แต่เราจะพลาดไม่ได้กับเมนคอร์ส ซึ่งคือปลา Red mullet นำมาชุบเกล็ดขนมปังทอด เสิร์ฟกับมอซซาเรลลา บวกกับเนื้อปลาสดหวาน และซอสอันนุ่มนวล เรียกได้ว่าเป็นการปิดมื้อของคาวจาก ACQUA Restaurant Bangkok อย่างจุใจกันเลยทีเดียว
ต่อด้วยของหวานเสิร์ฟมามากมายหลายชนิด หากอิ่มแล้วยังไม่อยากกลับ ไปดริงค์ต่อที่บาร์ได้ มีทั้งค็อกเทล และไวน์กว่า 500 ชนิดจากทั่วโลก
อาหารทุกจาน ให้มากกว่าความอร่อย ด้วยวัตถุดิบชั้นดี ฝีมือการปรุงเหนือชั้น และ เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ให้ความรู้สึกถึง ความเป็นศิลปะขั้นสูง ความประณีต แบบ Fine Dine ภายในบรรยากาศ ที่เรียบง่าย เรียกได้ว่าเป็นอีกมื้อหนึ่งที่ถือว่าเป็นประสบการณ์ชั้นเลิศได้เลย
ร้านตั้งอยู่ที่ 16,16/8 ซอยสมคิด เพลินจิต กรุงเทพฯ โทร. 093 6127000 เปิดตั้งแต่ 18.00-22.30 น.
อ่านเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับราชวงศ์ ทั้งไทย และ ต่างประเทศ เซเลบริตี้ ข่าวสารใหม่ ๆ และ เรื่องราวเกี่ยวกับ แฟชั่น สุขภาพ และความงามได้ที่ Hello!
เมื่อ Acqua ร้านอาหารชื่อดังจากภูเก็ต เดินทางมาถึงกรุงเทพ
อาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งแบบร่วมสมัยโดยเชฟ Alessandro Frauวงการอาหารไฟน์ไดนิ่งที่ภูเก็ตกำลังคึกคัก นอกจากจะมีเชฟดังๆ จากกรุงเทพฯ บินไปจัดดินเนอร์ร่วมกับโรงแรมต่างๆ กันเป็นว่าเล่นแล้ว ร้านอาหารของภูเก็ตเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่หลายร้าน และหนึ่งในนั้นคือร้าน Acqua Restaurant ของเชฟ Alessandro Frau ที่ยืนหยัดเป็นหมุดหมายให้เหล่านักชิมมากว่า 13 ปี แถมยังกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ซึ่งถ้าไม่แน่จริง คงไม่สามารถอยู่ยาวนานมาถึงทุกวันนี้ ที่ภูเก็ตที่ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันสูงมาก และไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดเชฟยังได้พาร้าน Acqua มาเป็นสาขาสองที่กรุงเทพฯ ในซอยสมคิดอีกด้วย!
Acqua นำเสนอคอนเซ็ปต์ ‘contemporary fine-dining Italian cuisine’ และการตกแต่งของร้านก็ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับตัวอาหาร โดยเน้นไปที่โทนสีขาวเพื่อสะท้อนถึงชื่อร้าน Acqua ที่แปลว่าน้ำในภาษาอิตาเลียน แม้จะเป็นอาหารไฟน์ไดนิ่ง แต่ในร้านก็มีบรรยากาศสบายๆ อบอุ่นแบบอิตาเลียน ไม่ได้มีพิธีรีตรองมากนัก ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่นัดพบสังสรรค์ที่ได้รับความนิยมมากที่เดียวในตอนนี้
อาหารอิตาเลียนไฟน์ไดนิ่งแบบร่วมสมัยโดยเชฟ Alessandro Frauวงการอาหารไฟน์ไดนิ่งที่ภูเก็ตกำลังคึกคัก นอกจากจะมีเชฟดังๆ จากกรุงเทพฯ บินไปจัดดินเนอร์ร่วมกับโรงแรมต่างๆ กันเป็นว่าเล่นแล้ว ร้านอาหารของภูเก็ตเองก็มีชื่อเสียงโด่งดังอยู่หลายร้าน และหนึ่งในนั้นคือร้าน Acqua Restaurant ของเชฟ Alessandro Frau ที่ยืนหยัดเป็นหมุดหมายให้เหล่านักชิมมากว่า 13 ปี แถมยังกวาดรางวัลมาแล้วมากมาย ซึ่งถ้าไม่แน่จริง คงไม่สามารถอยู่ยาวนานมาถึงทุกวันนี้ ที่ภูเก็ตที่ขึ้นชื่อว่าการแข่งขันสูงมาก และไม่เพียงเท่านั้น ล่าสุดเชฟยังได้พาร้าน Acqua มาเป็นสาขาสองที่กรุงเทพฯ ในซอยสมคิดอีกด้วย!
Acqua นำเสนอคอนเซ็ปต์ ‘contemporary fine-dining Italian cuisine’ และการตกแต่งของร้านก็ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับตัวอาหาร โดยเน้นไปที่โทนสีขาวเพื่อสะท้อนถึงชื่อร้าน Acqua ที่แปลว่าน้ำในภาษาอิตาเลียน แม้จะเป็นอาหารไฟน์ไดนิ่ง แต่ในร้านก็มีบรรยากาศสบายๆ อบอุ่นแบบอิตาเลียน ไม่ได้มีพิธีรีตรองมากนัก ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่นัดพบสังสรรค์ที่ได้รับความนิยมมากที่เดียวในตอนนี้
ในส่วนของอาหารเอง แม้จะมาจากภูเก็ต และแม้ว่าเชฟจะมาจากซาร์ดิเนียซึ่งเป็นเกาะในอิตาลี แต่ทางร้านย้ำว่าที่นี่ไม่ใช่ร้านอาหารซาร์ดิเนีย แต่กระนั้น กลิ่นอายของท้องทะเลก็ยังสัมผัสได้ชัดเจนที่นี่ ผสานกับวัตถุดิบตามฤดูกาลที่อิมพอร์ตมาจากยุโรปโดยเมนูที่เราได้ลองมีหลายเมนู เช่น Ceviche of scallops and Gillardeau oysters with marinated fish eggs in Yuzu soy sauce and fine extra virgin olive oil ที่จับคู่หอยสดๆ กับซอสยูสุแสนสดชื่นและน้ำมันมะกอก, Squid tagliatelle marinated with mint and extra virgin olive oil, Siberian caviar and raw asparagus ที่นำหมึกมาหมักและหั่นให้เป็นเส้นบางๆ เหมือนพาสต้า, Sardinian smoked eel, serived with pickled vegetable sweet and sour white balsamico vinegar sauce เมนูที่มีกลิ่นอายบ้านเกิดของเชฟ โดยนำปลาไหลจากซาร์ดิเนียมารมควันแล้วเสิร์ฟคู่กับผักดองและซอสเปรี้ยว, pan fried USA scallops with pan fried foie gras, chili jam and truffle pumpkin sauce หอยเชลล์กับฟัวกราส์และซอสฟักทอง, Burrata stuffed tortelli with wagyu beef cheeks ragout and autumn black truffle เมนูที่ถูกใจคนชอบเนื้อวัวและทรัฟเฟิล รวมถึงของหวานอย่าง Memories of Fior di Latte, milk semifreddo, gelatin, foam and ice cream ที่ชวนให้นึกถึงวัยเด็กของเชฟ ปิดท้ายด้วย Petit four ที่น่ารักสุดๆ
เนื่องจากเปิดบริการมาได้ไม่นาน สาขาที่กรุงเทพฯ จึงเน้นไปที่เมนูอะ ลา คาร์ท ก่อน และเปิดเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้น แต่ทางเชฟก็บอกว่ากำลังจะมีแผนเปิดตอนกลางวัน และมีอาหารแบบคอร์สไว้บริการด้วยในเร็วๆ นี้ โดยอาหารที่กรุงเทพฯ จะเหมือนกับที่ภูเก็ตเพื่อให้มีความสม่ำเสมอนั่นเอง ผู้ที่สนใจสามารถโทร. สำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0936127000 ดูเมนูได้ที่ acquarestaurantbangkok.com
เนื่องจากเปิดบริการมาได้ไม่นาน สาขาที่กรุงเทพฯ จึงเน้นไปที่เมนูอะ ลา คาร์ท ก่อน และเปิดเฉพาะช่วงเย็นเท่านั้น แต่ทางเชฟก็บอกว่ากำลังจะมีแผนเปิดตอนกลางวัน และมีอาหารแบบคอร์สไว้บริการด้วยในเร็วๆ นี้ โดยอาหารที่กรุงเทพฯ จะเหมือนกับที่ภูเก็ตเพื่อให้มีความสม่ำเสมอนั่นเอง ผู้ที่สนใจสามารถโทร. สำรองที่นั่งได้ที่โทร. 0936127000 ดูเมนูได้ที่ acquarestaurantbangkok.com
Transport Yourself To Italy, France or Even China At These 4 Bangkok Gems
Following the success of Acqua in Phuket, Chef Alessandro Frau has finally launched his new Bangkok location, Acqua Restaurant Bangkok.
Known for revitalising Italian fare and adding a touch of his native Sardinia to it, Chef Frau offers a one-of-a-kind Italian dining experience that has a wallop of flavour.
Known for revitalising Italian fare and adding a touch of his native Sardinia to it, Chef Frau offers a one-of-a-kind Italian dining experience that has a wallop of flavour.